กลุ่มงานพัสดุ

คำถาม-คำตอบยอดฮิตเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง 5 วิธี

คำถาม-คำตอบยอดฮิตเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง 5 วิธี โดยแต่ละวิธีจะมี 10 คำถาม-คำตอบ 
1. วิธี e-bidding

Q1: e-bidding คืออะไร?
A1: e-bidding คือวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีรายละเอียดคุณลักษณะซับซ้อน มีมูลค่าเกิน 500,000 บาท โดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในทุกขั้นตอน

Q2: วงเงินเท่าไหร่ถึงต้องใช้วิธี e-bidding?
A2: โดยทั่วไป ใช้กับการจัดซื้อจัดจ้างที่มีมูลค่าเกิน 500,000 บาท แต่หากมีความจำเป็นหรือเหมาะสม อาจใช้กับวงเงินที่ต่ำกว่านี้ได้

Q3: ขั้นตอนหลักของ e-bidding มีอะไรบ้าง?
A3: ขั้นตอนหลักประกอบด้วย การจัดทำร่าง TOR, การประกาศเชิญชวน, การเสนอราคาผ่านระบบ, การพิจารณาผล, และการประกาศผู้ชนะ

Q4: ระยะเวลาในการเผยแพร่ประกาศและเอกสารประกวดราคาต้องไม่น้อยกว่ากี่วัน?
A4: ระยะเวลาขึ้นอยู่กับวงเงิน เช่น วงเงินเกิน 5 แสนถึง 5 ล้านบาท ไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ, เกิน 5 ล้านถึง 10 ล้านบาท ไม่น้อยกว่า 10 วันทำการ, เกิน 10 ล้านถึง 50 ล้านบาท ไม่น้อยกว่า 12 วันทำการ เป็นต้น

Q5: หลักประกันการเสนอราคาใน e-bidding กำหนดอย่างไร?
A5: กำหนดในอัตราร้อยละ 5 ของวงเงินงบประมาณหรือราคากลางของการจัดซื้อจัดจ้างในครั้งนั้น

Q6: การพิจารณาผลใน e-bidding ใช้เกณฑ์อะไร?
A6: สามารถใช้ได้ทั้งเกณฑ์ราคาและเกณฑ์ประสิทธิภาพต่อราคา (Price Performance) ขึ้นอยู่กับลักษณะของพัสดุที่จัดซื้อจัดจ้าง

Q7: หากมีผู้เสนอราคาเพียงรายเดียว สามารถพิจารณาได้หรือไม่?
A7: สามารถพิจารณาได้ หากเห็นว่ามีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงาน

Q8: การยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาต้องทำภายในกี่วัน?
A8: ผู้มีสิทธิอุทธรณ์สามารถยื่นอุทธรณ์ภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันประกาศผลการจัดซื้อจัดจ้างในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง

Q9: กรณีไม่มีผู้เสนอราคาหรือข้อเสนอไม่ถูกต้อง ต้องดำเนินการอย่างไร?
A9: หน่วยงานสามารถยกเลิกการประกวดราคาและดำเนินการใหม่ หรือใช้วิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (1) (ก) หรือ (2) (ก) แล้วแต่กรณี

Q10: การแก้ไขเอกสาร e-bidding หลังจากประกาศเชิญชวนแล้วทำได้หรือไม่?
A10: ทำได้ แต่ต้องดำเนินการก่อนถึงวันเสนอราคา โดยเผยแพร่เอกสารฉบับใหม่และต้องกำหนดวันเสนอราคาใหม่ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
2. วิธี e-market

Q1: e-market คืออะไร และใช้กับพัสดุประเภทใด?
A1: e-market คือการซื้อหรือจ้างที่มีรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุไม่ซับซ้อน เป็นสินค้าหรือบริการทั่วไป มีมาตรฐาน และได้กำหนดไว้ในระบบข้อมูลสินค้า (e-catalog)

Q2: วงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธี e-market กำหนดไว้อย่างไร?
A2: ใช้กับการจัดซื้อจัดจ้างที่มีมูลค่าเกิน 500,000 บาท โดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุด

Q3: e-market มีกี่วิธี อะไรบ้าง?
A3: มี 2 วิธี คือ 1) การเสนอราคาโดยใบเสนอราคา (Request for Quotation: RFQ) และ 2) การเสนอราคาโดยการประมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Thai Auction)

Q4: การเสนอราคาแบบ RFQ และ Thai Auction ต่างกันอย่างไร?
A4: RFQ ใช้กับวงเงินเกิน 5 แสนถึง 5 ล้านบาท ผู้ค้าเสนอราคาได้เพียงครั้งเดียว ส่วน Thai Auction ใช้กับวงเงินเกิน 5 ล้านบาท ผู้ค้าเสนอราคาได้หลายครั้งภายในเวลาที่กำหนด

Q5: ระยะเวลาในการเผยแพร่ประกาศและเอกสารสำหรับวิธี e-market กำหนดไว้อย่างไร?
A5: ต้องเผยแพร่ประกาศและเอกสารไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ

Q6: การเสนอราคาใน e-market ต้องมีหลักประกันการเสนอราคาหรือไม่?
A6: ไม่ต้องมีหลักประกันการเสนอราคา

Q7: หากไม่มีผู้เสนอราคาในวิธี e-market ต้องดำเนินการอย่างไร?
A7: สามารถยกเลิกการดำเนินการและใช้วิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจงได้ ตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ก)

Q8: การพิจารณาผลใน e-market ใช้เกณฑ์อะไร?
A8: ใช้เกณฑ์ราคาต่ำสุดเป็นหลัก

Q9: ผู้ค้าต้องลงทะเบียนในระบบ e-GP ก่อนเสนอราคาหรือไม่?
A9: ใช่ ผู้ค้าต้องลงทะเบียนในระบบ e-GP และต้องได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ค้ากับภาครัฐในระบบ e-GP ก่อนจึงจะสามารถเสนอราคาได้

Q10: สามารถเจรจาต่อรองราคากับผู้ชนะการเสนอราคาได้หรือไม่?
A10: โดยปกติไม่สามารถเจรจาต่อรองได้ เว้นแต่ราคาที่เสนอสูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง จึงสามารถเจรจาต่อรองราคาได้
3. วิธีคัดเลือก

Q1: วิธีคัดเลือกคืออะไร และใช้ในกรณีใด?
A1: วิธีคัดเลือกเป็นวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่หน่วยงานเชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดให้เข้ายื่นข้อเสนอ ใช้ในกรณีที่พัสดุมีความซับซ้อน มีเทคนิคเฉพาะ หรือมีข้อจำกัดทางเทคนิคที่จำเป็น

Q2: ขั้นตอนหลักของวิธีคัดเลือกมีอะไรบ้าง?
A2: ขั้นตอนหลักประกอบด้วย การจัดทำรายงานขอซื้อขอจ้าง, การคัดเลือกผู้ประกอบการ, การเชิญชวนให้เข้ายื่นข้อเสนอ, การพิจารณาข้อเสนอ, และการประกาศผู้ชนะ

Q3: ต้องเชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมเสนอราคาอย่างน้อยกี่ราย?
A3: ต้องเชิญผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขไม่น้อยกว่า 3 ราย ให้เข้ายื่นข้อเสนอ เว้นแต่มีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดน้อยกว่า 3 ราย

Q4: การพิจารณาผลในวิธีคัดเลือกใช้เกณฑ์อะไร?
A4: สามารถใช้ได้ทั้งเกณฑ์ราคาและเกณฑ์ประสิทธิภาพต่อราคา (Price Performance) ขึ้นอยู่กับลักษณะของพัสดุที่จัดซื้อจัดจ้าง

Q5: หากมีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว สามารถพิจารณาได้หรือไม่?
A5: สามารถพิจารณาได้ หากเห็นว่ามีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงาน

Q6: ต้องประกาศเผยแพร่การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีคัดเลือกหรือไม่?
A6: ไม่ต้องประกาศเผยแพร่ แต่ต้องจัดทำหนังสือเชิญชวนส่งไปยังผู้ประกอบการโดยตรง

Q7: การยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาในวิธีคัดเลือกต้องทำภายในกี่วัน?
A7: ผู้มีสิทธิอุทธรณ์สามารถยื่นอุทธรณ์ภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันประกาศผลการจัดซื้อจัดจ้างในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง

Q8: สามารถต่อรองราคากับผู้ชนะการเสนอราคาได้หรือไม่? A8: สามารถต่อรองราคาได้ โดยคณะกรรมการสามารถเจรจาต่อรองราคากับผู้ยื่นข้อเสนอรายที่คณะกรรมการเห็นสมควรซื้อหรือจ้าง เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐมากที่สุด

Q9: กรณีไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอหรือข้อเสนอไม่ได้รับการคัดเลือก ต้องดำเนินการอย่างไร? A9: หากไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอหรือข้อเสนอไม่ได้รับการคัดเลือก ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อยกเลิกการคัดเลือกครั้งนั้น และจะดำเนินการใหม่โดยวิธีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ก) ก็ได้

Q10: การประกาศผลผู้ชนะการคัดเลือกต้องดำเนินการอย่างไร? A10: ต้องประกาศผลผู้ชนะการคัดเลือกในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐ และปิดประกาศ ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐนั้น พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้เสนอราคาทุกรายทราบผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail)

ขอโทษครับที่ตกหล่นไป ผมจะเพิ่มคำตอบสำหรับ Q8 ของวิธีคัดเลือก และเพิ่มคำถาม-คำตอบสำหรับวิธีเฉพาะเจาะจงครับ

วิธีคัดเลือก (ต่อ):

Q8: สามารถต่อรองราคากับผู้ชนะการเสนอราคาได้หรือไม่?
A8: สามารถต่อรองราคาได้ โดยคณะกรรมการสามารถเจรจาต่อรองราคากับผู้ยื่นข้อเสนอรายที่คณะกรรมการเห็นสมควรซื้อหรือจ้าง เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐมากที่สุด
4. วิธีเฉพาะเจาะจง

Q1: วิธีเฉพาะเจาะจงคืออะไร และใช้ในกรณีใดบ้าง?
A1: วิธีเฉพาะเจาะจงเป็นวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่หน่วยงานติดต่อกับผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดรายใดรายหนึ่งโดยตรง ใช้ในกรณีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท หรือกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน หรือพัสดุที่มีผู้ประกอบการรายเดียว เป็นต้น

Q2: วงเงินสูงสุดในการใช้วิธีเฉพาะเจาะจงคือเท่าไร?
A2: โดยทั่วไปใช้กับการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท แต่มีข้อยกเว้นในบางกรณี เช่น กรณีใช้ทั้งหมดไม่เกิน 500,000 บาท หรือกรณีจำเป็นเร่งด่วน

Q3: ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการในวิธีเฉพาะเจาะจงหรือไม่?
A3: ไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งคณะกรรมการ สามารถให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งรับผิดชอบดำเนินการได้

Q4: วิธีเฉพาะเจาะจงต้องทำในระบบ e-GP หรือไม่?
A4: ต้องดำเนินการในระบบ e-GP ยกเว้นกรณีวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท

Q5: การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงต้องทำสัญญาเป็นหนังสือหรือไม่?
A5: ไม่จำเป็นต้องทำสัญญาเป็นหนังสือก็ได้ ขึ้นอยู่กับวงเงินและดุลยพินิจของหน่วยงาน โดยอาจทำเป็นใบสั่งซื้อสั่งจ้างแทนได้

Q6: สามารถใช้วิธีเฉพาะเจาะจงในกรณีฉุกเฉินได้หรือไม่?
A6: ได้ ในกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดหมายได้ ซึ่งหากใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปหรือวิธีคัดเลือกอาจก่อให้เกิดความล่าช้าและอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐ

Q7: ต้องมีการประกาศเผยแพร่การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงหรือไม่?
A7: ไม่ต้องประกาศเผยแพร่ แต่ต้องจัดทำรายงานขอซื้อขอจ้างและเหตุผลที่ต้องใช้วิธีเฉพาะเจาะจง

Q8: การต่อรองราคาในวิธีเฉพาะเจาะจงทำได้หรือไม่?
A8: สามารถต่อรองราคาได้ โดยเจ้าหน้าที่สามารถต่อรองราคากับผู้ประกอบการที่มีอาชีพขายหรือรับจ้างนั้นโดยตรง

Q9: กรณีใดบ้างที่สามารถใช้วิธีเฉพาะเจาะจงได้แม้วงเงินเกิน 500,000 บาท?
A9: เช่น กรณีใช้ทั้งหมดไม่เกิน 500,000 บาท, กรณีจำเป็นเร่งด่วน, กรณีพัสดุที่มีผู้ประกอบการรายเดียว, หรือกรณีพัสดุที่เกี่ยวพันกับพัสดุที่ได้จัดซื้อจัดจ้างไว้ก่อนแล้ว

Q10: การประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือกโดยวิธีเฉพาะเจาะจงต้องทำอย่างไร?
A10: ต้องประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือกในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด และปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐนั้น
5. วิธีสอบราคา

Q1: วิธีสอบราคาคืออะไร และใช้ในกรณีใด?
A1: วิธีสอบราคาเป็นการจัดซื้อจัดจ้างครั้งหนึ่งซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท โดยไม่ต้องจัดทำเอกสารการซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์

Q2: ขั้นตอนหลักของวิธีสอบราคามีอะไรบ้าง?
A2: ขั้นตอนหลักประกอบด้วย การจัดทำเอกสารสอบราคา, การประกาศเชิญชวน, การยื่นซองข้อเสนอ, การพิจารณาผล, และการประกาศผู้ชนะ

Q3: ระยะเวลาการเผยแพร่เอกสารสอบราคาและการให้หรือขายเอกสารสอบราคาต้องดำเนินการอย่างน้อยกี่วัน?
A3: ไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ

Q4: สามารถยื่นข้อเสนอทางไปรษณีย์ได้หรือไม่?
A4: ได้ โดยต้องส่งถึงหน่วยงานของรัฐภายในกำหนดวัน เวลารับซอง

Q5: หากมีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว สามารถพิจารณาผลการสอบราคาได้หรือไม่?
A5: สามารถพิจารณาได้ หากเห็นว่ามีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐ

Q6: ต้องมีการวางหลักประกันการเสนอราคาในวิธีสอบราคาหรือไม่?
A6: ไม่จำเป็นต้องมีการวางหลักประกันการเสนอราคา เว้นแต่หน่วยงานของรัฐเห็นว่ามีความจำเป็นต้องกำหนด

Q7: สามารถดำเนินการจัดทำเอกสารสอบราคาในระบบ e-GP ได้หรือไม่?
A7: สามารถดำเนินการได้ โดยระบบ e-GP มีการรองรับการจัดทำเอกสารสอบราคา

Q8: การเปิดซองข้อเสนอต้องดำเนินการเมื่อใด?
A8: ต้องดำเนินการพร้อมกันหลังจากสิ้นสุดกำหนดเวลารับซองข้อเสนอ

Q9: หากไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอหรือมีแต่ไม่ถูกต้องตรงตามเงื่อนไข ต้องดำเนินการอย่างไร?
A9: ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อยกเลิกการสอบราคาครั้งนั้น และดำเนินการสอบราคาใหม่ หรืออาจใช้วิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจงตามเงื่อนไขที่กำหนด

Q10: การประกาศผลผู้ชนะการสอบราคาต้องดำเนินการอย่างไร?
A10: ต้องประกาศผลผู้ชนะการสอบราคาในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐ และปิดประกาศ ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐนั้น พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้เสนอราคาทุกรายทราบผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail)

4 หลักการจัดซื้อจัดจ้าง
ราคากลาง